รีวิว : เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน FIREFLY ; ฮารูกิ มูราคามิ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

เรื่องนี้เป็นเหมือนภาค 0 ของ Norwegian Wood หรือ ด้วยรัก ความตาย และ หัวใจสลาย อันโด่งดังเลื่องชื่อนั่นเอง เป็นเรื่องสั้นไม่กี่หน้าจบ เรื่องราวของ ‘ผม’ ที่อยู่ในช่วงวัย 19 ย่างเข้า 20 วัยที่คาบเกี่ยวระหว่างวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เช่นเดิม ผมเป็นเหมือนวัยรุ่นหลายคนที่คิดต่อต้าน เป็นปฏิปักษ์ อยากจะสวนกระแสระบอบของสังคมในรูปแบบการดื้อเงียบ สังเกตได้จากการที่ผู้เขียนบรรยายถึงการเชิญธงชาติที่หอพักขึ้น-ลงเป็นกิจวัตร (เราคิดว่าการเชิญธงขึ้น-ลงเป็นประจำทุกวันแทนกิจกรรม,วัฒนธรรม,การดำรงอยู่ที่เป็นแบบแผนมาช้านานของคนญี่ปุ่น) แต่ตัวละครผมหาได้สนใจไยดีมันไม่ ไม่ว่าข้างนอกนั่น เหล่านักศึกษาคนอื่นกำลังทำการปฏิวัติเพื่อสิทธิของตน มีหลักยึดเป็นภารกิจของชีวิตอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมสนใจมีแต่ตัวเขาเองเท่านั้น

จิตใจของผมยังฝักใฝ่อยู่กับสาวที่เขาตกหลุมรักซึ่งสาวคนนั้นเป็นแฟนเก่าของเพื่อนสนิท ที่ได้กระทำการอัตวินิบาตกรรม ลาจากโลกไปตอนอายุ 17

หล่อนผูกติดตัวเองกับคนรักเก่า ในขณะที่เขาเอาใจเข้ายึดติดกับหล่อน สร้างกรงขังอันมืดมิดล้อมรอบตัวเองไว้ สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวัยกำหนัดหาใช่ประสบการณ์ผาดโผนใดิย่างที่วัยรุ่นทั่วไปควรจะเป็น แต่กลับเป็นการตระหนักรู้ว่าความตายเป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต

เฉกเช่นหิ่งห้อยที่ถูกขังอยู่ในโหลกาแฟไม่มีผิด

เราชอบตอนท้ายสุดที่ตัวละครผมระลึกว่าเมื่อก่อนตอนเด็กจำได้ว่าแสงของหิ่งห้อยมันสุกสว่างกว่านี้ แต่นั่นอาจเพราะเขาจำผิด อาจเป็นเพราะความมืดในวัยเยาว์ดำสนิทยิ่งกว่าตอนนี้ ความจริงแล้วหิ่งห้อยอาจส่องสว่างริบหรี่เช่นนี้มานานแล้ว

สุดท้ายผมตัดสินใจปล่อยหิ่งห้อยที่คิดว่าใกล้ตายออกไปจากขวดโหล เฝ้ามองดูมันรวบรวมกำลังไต่ซวนเซออกจากปากขวด

ท้ายที่สุด หิ่งห้อยใกล้ตายกลับบินหนีออกไปได้ ส่องแสงสว่างเป็นเส้นแสงสุกใสต่อหน้าเขา หากเมื่อยื่นมือออกไป กลับพบแต่ความว่างเปล่า…

นี่เรียกได้ว่าเป็นงาน Coming of Age ชั้นดีอีกชิ้นหนึ่งที่เราชื่นชอบเอามากๆ เอาจริงเราว่าเราชอบเรื่องนี้มากกว่าด้วยรักฯด้วยซ้ำ แต่พออ่านเรื่องนี้ แล้วไปอ่านตอนจบของด้วยรักฯ เราว่ามันโอเคมากๆ เป็นการเติมเต็มให้งานชุดนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นไปอีก

ส่วนตัวคิดว่าหิ่งห้อยก็ไม่ต่างจากวัยรุ่นหลายคนที่ล้วนมีแสงสว่างของตัวเอง หรือก็คือความสามารถ,ตัวตนที่รอวันส่องประกาย เพียงแต่หลายคนยังหามันไม่พบ ค้นไม่เจอ หรือต่อให้พบก็ไม่รู้จักวิธีขัดเกลาให้ตนส่องสว่าง หิ่งห้อยในเรื่องนี้เปรียบเสมือนความหวัง ความฝัน ความเยาว์วัยที่สุกสกาวอยู่เบื้องหน้าผมหรือพระเอกของเรา หากแต่พอเขายื่นมือออกไปคว้าก็พบว่าตัวเขาช่างห่างไกลจากทุกสิ่งที่ว่ามา…ไกลเหลือเกิน

ความตายของเพื่อนสนิทกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงอยู่ของเขาเสียแล้ว ชีวิตของเขา ความรักของเขาถูกนำไปผูกติดกับคนตายที่ไม่อาจฟื้นคืนขึ้นมาแก้ไขสิ่งใดได้ พลอยให้ช่วงเวลาโลดโผนของการเป็นวัยรุ่นได้จางหายไปด้วย

ไม่มีกะจิตกะใจจะตามหาความฝัน ไม่มีหลักยึด จะก้าวไปข้างหน้าก็มืดมิด จะถอยหลัง เท้าก็ติดอยู่ในโคลนตม แต่กระนั้น ความตายได้หล่อหลอมให้เขาได้เป็นเขาด้วยเช่นกัน เป็นเหมือนวาระหนึ่งที่ทุกคนต้องเคยเผชิญ ขึ้นกับว่าใครจะรับมือหรือจัดการกับมันอย่างไร

ในเล่มนี้ที่ส่วนตัวชื่นชอบและแนะนำให้อ่านยังมี ‘มือเพลิง’ (Barn Burning) หรือ Burning ที่เพิ่งกลายเป็นภาพยนตร์ฉบับเกาหลีไปไม่นานมานี้ นำแสดงโดยยูอาอินและแน่นอน พี่สตีฟ ยวนของเราอีกแล้ว กับอีกเรื่องที่แนะนำและเหนือความคาดหมายคือ ‘คนแคระนักเต้น’ ที่ไม่รีวิวมือเพลิงเพราะว่ามีหลายคนรีวิวไปแล้ว เรื่องนี้ก็พีคมากเหมือนกันสำหรับเรา ส่วนคนแคระนักเต้น เราคิดว่าต้องลองไปอ่านเอง ถ้าได้ลองอ่าน คุณก็จะได้สัมผัสอารมณ์เดียวกับเราเองแหละ มันดีย์อะ แค่นี้ บอกเลย.

20181030_2105471802867609.jpg